พรรษาที่ 3 ถึง 5 จำพรรษาวัดคร้อพนันอยู่รับใช้ปรนนิบัติหลวงพ่อใช้ พอพรรษาที่ 6 หลวงพ่อใช้ได้ล้มป่วยด้วยโรคขรา หลวงพ่อใช้ได้พร่ำสอนหลวงพ่อ
เกลี้ยง โดยให้คติธรรมโรคอื่น ๆ หาหมอพอรักษา แต่โรคชรา หมดทางแก้ไข พรรษาที่ 7 หลวงพ่อใช้ได้สอนไว้ เรื่องความตายเป็นธรรมดา สังขารไม่เที่ยงแท้ มีแต่ทรุดโทรม
แม้ท่านป่วยยังเอ่ยสอนธรรมธรรมะ หลวงพ่อใช้ท่านมีสติดีไม่หลงลืม
ท่านได้กำหนดวันตายไว้ พจถึงตอนปลายปีท่านได้จากไปตามว่าไว้จริง ออกพรรษาจัดงานศพหลวงพ่อใช้ใด้เสร็จครบถ้วน
ก่อนตายหลวงพ่อใช้ได้สั่งไว้ว่า เมื่อท่านสิ้นแล้วให้ไปพาอาจารย์ชื่น วัดปากบาง ตำบลพงตึก อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบรี ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดคร้อพนันอยู่คนละฝังแม่น้ำ
เมื่อหลวงพ่อเกลี้ยงมาถึงวัดปากบางอาจารย์ชื่นได้รับหลวงพ่อเกลี้ยงเป็นศิษย์
เพราะก่อนหน้านั้นได้รับปากหลวงพ่อใช้เอาไว้แล้ว
หลวงพ่อเกลึ้ยงได้ศึกษาพุทธาคมจากอาจารย์ชื่น ด้วยความวิรยะ อุตสาหะ อาจารยชี่น ชื่นชมว่าหลวงพ่อ
เกลี้ยงเรียนได้ไวเพราะมีพื้นฐูานดีอยู่เล้ว จึงถายทอดวิชาให้ทุกสิงทุกอย่างไม่ปิดบังหลวงพ่อเกลี้ยงได้อยู่รับใช้และศึกษาวิชากับอาจารย์ชื่น ถึง 5 ปี ตั้งแต่พรรษาที่ 8 ถึง 12 เมื่อศึกษาวิชาอาคมจากอาจารย์ชื่นจนจบ ตั้งใจจะลาพระอาจารย์กลับวัดคร้อพนัน ถิ่นบ้านเกิด
พอย่างเข้าเดือน 5 ชาวบ้านเขาใหญ
ตำบลโคกตะบอง อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากวัดปากบาง ประมาณ
4 กิโลเมตร ได้มาหาอาจารย์ชื่นเพื่อขอพระมาอยู่ดูแลจัดการวัดเขาใหญ่เป็นสมภารเจ้าวัด
อาจารย์ชื่นเห็นพระเกลี้ยงศิลย์รักของท่านมีความเหมาะสม
เชี่ยวชาญเวทย์มนต์คาถา พอที่จะเป็นที่พึงแกชาวบ้านได้ หลวงพ่อชื่นจึงบอกให้ชาวบ้านเขาใหญ่กลับไปก่อน เมื่อถึงกำหนดชาวบ้านเขาใหญ่ได้มานิมนต์หลวงพอเกลี้ยง
ไปเป็นสมภารวัดเขาใหญ่ หลวงพ่อเกลี้ยงจึงได้กับลาอาจารย์ชื่น
เมื่อมาถึงวัดเขาใหญ่ ขณะนั้นยังไม่มีพระอุโบสถ มีเพียงกฏิเพียง 2 หลัง หลังจากนั้นหลวงพ่อเกลี้ยงท่านได้มาพัฒนาโดยดำเนินการก่อสร้างเสนาสนะภายในวัด ศาลาการเปรียญ หอระฆัง พระอุโบสถ เมรุฌาปนกิจศพโรงเรียนประบาล ฯลฯ หลวงพอเกลี้ยงอยู่วัดเขาใหญ่ได้ 3 พรรษาโยมพ่อได้ถึงแก่มรณภาพท่านจึงได้กลับมาจัดงานศพที่วัดคร้อพนัน
พอเสร็จงานได้กลับวัดเขาใหญ่ในปี พ ศ 2494 สร้างโรงเรียนประชาบาล เพื่อเให้ลูกหลาน ของชาวบ้านเขาใหญ่และหมู่บ้านใกล้เคียงได้เล่าเรียน
เพื่อความเจริญก้าวหน้า
พ ศ 2500
สร้าง ศาลาการเปรียญ ศาลาเอนกประสงค์เพื่อประกอบการบุญการกุศลของชาวบ้าน เขาใหญ่ พ ศ 2503
สร้างกุฏิสงฆ์และปีต่อมาได้ขุดสระน้ำ เพื่อวางรากฐานการสร้างพระอุโบสถพอถึงปี
พ ศ 2510 โยมเม่ของหลวงพ่อเกลี้ยงได้ถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา หลวงพ่อเกลี้ยงท่านต้องกลับมาจัดงานศพของโยมแม่มที่วัดคร้อพนัน อีกครั้งหนึ่งนับว่าหลวงพ่อเกลี้ยงเป็นผู้มีความกตัญญูรู้คณผู้มีพระคุณ
เมื่อโยมบิดามารดาเจ็บไข้ได้ป่วย ท่านจะมาคอยดูแลรักษาโดยตลอด จนกระทั่งโยมบิดามารดาถึงแก่กรรมท่านก็จัดงานศพโดยเรียบร้อย นอกจากเป็นผู้มีความกตัญญูแล้ว ท่านยังเป็นผู้มีความเมตตาอย่างยิ่ง
ต่อผู้มีความเดือดร้อน ด้วยคุณงามความดีทีหลวงพ่อเกลี้ยงได้สร้างสมในปี พ ศ 2515
หลวงพ่อเกลี้ยงได้รับตราตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ที่ พระครูอินทรสรวุฒิคุณ
ปี พ ศ 2520 ทางวัดเขาใหญ่ได้จัดงานฉลองพระอโบสถผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิต ชึ่งพระอุโบสถนี้หลวงพ่อเกลี้ยงได้ออก
แบบก่อสร้างได้อย่างสวยงามมาก ประตูและหน้าต่างพระอุโบสถแกะจากไม้สักลวดลายฉลุเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัต
หน้าบรรณพระอุโบสถด้านบนเป็นพระปางนาคปรก ด้านล่าง
พระนารายณทรงโค
หลังจากงานผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิต
หลวงพ่อเกลี้ยงมีสุขภาพอ่อนแอ เนื่องจากตรากตรำงานหนักนับแต่รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเขาใหญ่ ซึ่งการสร้างเสนาสนะภายในวัดหลวงพ่อเกลี้ยงท่านตั้งใจสร้างด้วยความพากเพียร ตัดไม้เอง
เลื่อยไม้เอง เมื่อย่างเข้าสู่วัยชราเกิดโรคเเทรกซ้อนเป็นเวลา 1 ปี มีอาการหนัก ลูกศิษย์จึงนำท่านส่งโรงพยาบาล แต่อาการมีแต่ทรงและทรุดหนักลง หลังจากรักษาอยู่ 1 ปีครึ่ง ลูกศิษย์จึงนำหลวงพ่อเกลี้ยงกลับวัดเขาใหญ่โดยมีลูกศิษย์คอยดูแลปรนนิบัต
เเต่ด้วยวัยชราหลวงพ่อเกลี้ยงได้มรณภาพด้วยอาการสงบ ณ วัดเขาใหญ่ เมื่อวันที่
2 สิงหาคม พ ศ 2525 คงเหลือแต่ความดีที่ท่านได้สร้างไว้
รวมสิริอายุ 82 ปี 63 พรรษา
ข้อมูลดีๆ อ้างอิงจากหนังสือ กระแสพระ ปีที่ 4 ฉบับที่ 47 เดือนสิงหาคม 2549 ขอบคุณครับ
ข้อมูลดีๆ อ้างอิงจากหนังสือ กระแสพระ ปีที่ 4 ฉบับที่ 47 เดือนสิงหาคม 2549 ขอบคุณครับ
ไครมีปล่อยไห้ผมบูชาบางคับ
ตอบลบผมมีครับปี20งานผูกพัทธสีมา
ตอบลบผมอยากหาเจ้าของให้ใหม่นะ
ตอบลบ